The Latest Football News

“ หมาป่า ” วูล์ฟแฮมป์ตั้น ลงเล่นฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 นัดที่ 18 พวกเขาเปิดสนาม Villa Park พร้อมแฟนบอล 39,978 คน รับการมาเยือนของ แอสตัน วิลล่า เกมผ่าน 12 นาที เจา มูตินโญ่ แอสซิสต์ให้ ดาเนี่ยล โพเดนซ์ ใส่สกอร์ให้ วูล์ฟแฮมป์ตั้น ออกนำ 1-0 จากนั้นพวกเขาเกือบได้ประตูที่ 2 จากโอกาสยิงของ แม็กซ์ คิลแมนน์ , ดีเอโก้ คอสต้า และ มาเธอุส นูเนส แต่ยังบวกเพิ่มไม่ได้ ครึ่งหลัง วิลล่า เปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างหนัก ผ่านไปถึงนาที 75 พวกเขาเกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะยิงของ ลุดวิก อกุสตินสัน ที่ผ่านมือผู้รักษาประตูไปแล้ว แต่ถูก แม็กซ์ คิลแมนน์ เคลียร์ออกมาจากเส้นได้ก่อน แต่อีก 3 นาทีต่อมา วิลล่า ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ จากการยิงของ แดนนี่ อิงส์ แล้วจบเกมด้วยสกอร์นี้ไปเลย วูล์ฟแฮมป์ตั้น นั่งโซนตกชั้น ห่างโซนปลอดภัยแต้มเดียว หลังผ่าน 18 นัด วูล์ฟแฮมป์ตั้น เก็บเพิ่มเป็น 14 คะแนน อยู่อันดับ 19 ตามหลังโซนปลอดภัย (เวสต์แฮม) 1 คะแนน โดยเกมที่ 19 ลูกทีมของ ฆูเลน โลเปเตกี มีคิวเปิดบ้านรับมือ เวสต์แฮม ในวันที่ 14 มกราคม ฆูเลน โลเปเตกี กล่าวหลังจบเกมว่า “ เราสู้เพื่อสามคะแนนเต็ม แล้วเราเกือบจะทำได้อยู

ไบรท์ตั้น ลงเล่นฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 นัดที่ 17 พวกเขาบุกไปที่สนาม Goodison Park รังเหย้าของ “ ทอฟฟี่ ” เอฟเวอร์ตั้น ที่ต้อนรับด้วยแฟนบอล 23,434 คน เกมผ่านไป 14 นาที คาโอรุ มิโตมะ ใส่สกอร์ให้ ไบรท์ตั้น ออกนำ 1-0 แล้วสกอร์ขยับเป็น 2-0 เมื่อถึงนาที 54 จากการยิงของ อิวาน เฟอร์กูสัน ถัดจากนั้นอีก 3 นาที อิวาน เฟอร์กูสัน จ่ายให้ ซอลลี่ มาร์ช จบสกอร์ให้ ไบรท์ตั้น ทิ้งขาดเป็น 3-0 แล้วสกอร์ขยับเป็น 4-0 จากการยิงของ ปาสกาว กรอส ในนาที 57 จากนั้น ไบรท์ตั้น ยังมีเกมที่ดีกว่า มีโอกาสได้ประตูที่ 5 หลายครั้ง แต่ผ่านไปถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เป็นฝั่ง เอฟเวอร์ตั้น ที่ยิงไล่มาเป็น 1-4 จากจุดโทษของ เดมาราย เกรย์ แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่นั้น ไบรท์ตั้น ยึดที่ 8 ตามหลังท็อปซิกซ์แต้มเดียว หลังผ่าน 17 นัด ไบรท์ตั้น เก็บเพิ่มเป็น 27 คะแนน อยู่อันดับ 8 ตามหลังท็อป 6 (ลิเวอร์พูล) 1 คะแนน ขณะเดียวกันพวกเขานำหน้าอันดับ 9 เบรนท์ฟอร์ด 1 คะแนนเช่นเดียวกัน โดยเกมนัดที่ 18 ลูกทีมของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ มีคิวเปิดบ้านรับมือ ลิเวอร์พูล ในวันที่ 14 มกราคม แต่จะถูกคั่นด้วยฟุตบอลเอฟเอคัพ พบกับ มิดเดิ้ลสโบรซ์

บรูโน แฟร์นานเดส มิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  ไม่สนใจที่ตัวเลขการทำประตู รวมถึงแอสซิสต์ของเขาจะลดน้อยลง ตราบใดที่ทีมได้รับชัยชนะ นั่นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด   บรูโน แฟร์นานเดซ เปิดตัวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคม 2020 (ฤดูกาล 2019/20 ) เพียงครึ่งซีซั่นเขากดไป 12 ประตู พ่วงด้วย 8 แอสซิสต์ กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลอย่างรวดเร็ว ฤดูกาล 2020/21 ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส ยังผลงานดีอย่างต่อเนื่อง กดไป 28 ประตู กับอีก 17 แอสซิสต์ พร้อมคั่วรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร 2 ฤดูกาลซ้อน   ฤดูกาล 2021/22 บรูโน แฟร์นานเดส ผลงานดร็อปลงไป ยิงได้ 10 ประตู จ่าย 14 แอสซิสต์ แม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่แย่ แต่ลดลงจากเดิมเป็นอย่างมาก ส่วนซีซั่นนี้ผ่านมาเกือบครึ่งทาง เขามี 3 สกอร์ 3 แอสซิสต์ แฟนบอลหลายคนมองว่าผลงานตกต่ำ แต่เขาไม่คิดแบบนั้น “ ปีแรกที่มาอยู่ที่นี่ ผมทำผลงานได้อย่างเหลือเชื่อ ตอนนี้จำนวนประตูกับแอสซิสต์ของผมอาจจะดูน้อยกว่าเดิม แต่ผมว่าผมเล่นได้ดีขึ้นกว่าเดิม ผมมีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น ” “ ผมว่าชัยชนะของทีมมันสำคัญกว่าเรื่องอื่น ถ้าคุณชนะไม่ว่าจะทำอะไรคุณจะมีความสุขไปหมด ”  

  โรนัลด์ เดอ บัวร์ อดีตนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า โคดี้ กัคโป ดาวเตะรุ่นน้อง จะประสบความสำเร็จในการเล่นกับ ลิเวอร์พูล ถ้าได้เล่นในตำแหน่งปีกซ้ายจะโหดที่สุด โคดี้ กัคโป ย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 44 ล้านปอนด์ ซึ่งขั้นตอนต่างๆเสร็จสิ้นหมดแล้ว เหลือเพียงการลงทะเบียนเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันเปิดทำการตลาดหน้าหนาวอย่างเป็นทางการ ซึ่งทาง โรนัลด์ เดอ บัวร์ เชื่อว่าดาวเตะรุ่นน้องจะทำได้ดีในการเล่นกับ ลิเวอร์พูล “ ผมตามดูผลงานเขามาสองสามปีแล้ว เขาเป็นนักเตะชั้นยอด เขามีความสามารถในการจบสกอร์ อาวุธเด็ดคือการลากตัดเข้าในด้วยเท้าขวา เขาเลี้ยงบอลเก่ง มีความคล่องตัว แถมมีทัศนคติที่ดีในการเล่น ” “ ผมเคยเห็นเขาสัมภาษณ์ในทีวี เขาเป็นเด็กฉลาด รู้ว่าตัวเองชอบอะไร และเขามีฝีเท้าดีพอที่จะก้าวไปเป็นนผู้เล่นที่เก่งกว่านี้ได้อีก ” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นข่าวเชื่อมโยงกับ โคดี้ กัคโป แบบรายวัน ยิ่งในช่วงฟุตบอลโลก ข่าวยิ่งเอียงไปทาง “ ปีศาจแดง ” สุดท้ายเป็น “ หงส์แดง ” ที่ปาดหน้าคว้าตัวมาครอง ซึ่ง โรนัลด์ เดอ บัว

     หลังจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลแทรฟฟอร์ด เก็บชัยชนะเหนือ บอร์นมัธ 3-0 มี 7 ประเด็นสำคัญที่อยากจะบอก 1 รูปเกมบ่งบอกชื่อชั้นอย่างชัดเจน นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่ถล่มคู่แข่งที่มีวรรณะทางฟุตบอลต่ำกว่า เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเล่นกับทีมไหน พร้อมจะแพ้ไปซะหมด นับตั้งแต่ เอริค เทน ฮาก เริ่มตั้งหลักได้ ปีศาจแดงก็เริ่มบอกทีมอื่นว่าข้าน่ะทีมใหญ่นะเว๊ย ! 2 ยังพอมีโอกาสลุ้นแชมป์ หลังผ่าน 17 นัด ไล่หลังจ่าฝูง อาร์เซน่อล เหลือแค่ 9 คะแนน อาจจะดูมาก แต่ฟุตบอลมีสามแต้มต่อนัด ดังนั้นไม่ไกลแล้ว ทำเป็นเล่นไป ถ้าจะบอกว่าลุ้นแชมป์เต็มตัวก็ว่าได้นะ แต่รอดูอีก 2 เกมที่ต้องรับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล เสร็จสองศึกใหญ่ดังกล่าว ค่อยมาว่ากันอีกที 3 มาร์คัส แรชฟอร์ด ร่างทอง ตั้งแต่กลับมาจากฟุตบอลโลก มาร์คัส แรชฟอร์ด รู้สึกว่าจะได้นอนเต็มอิ่ม พี่แกยิง 4 ประตู พ่วงด้วย 1 แอสซิสต์ จาก 4 นัดล่าสุด นี่แหละเหตุผลที่เขาดูดีกว่า ดาร์วิน นูนเญซ (ขอแซะนิดนึง) 4 เก็บคลีนชีต 4 นัดติด 4 เกมหลังมาจากฟุตบอลโลก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เสียประตูทุกนัด นี่ขนาดไม่ได้ใช้